12 ตุลาคม 2559

[SF/OS] It's the end.#ซัมเกรย์











Title : It’s the end.
Pairing : JungKiseok x LeeSonghwa (Simon Dominic x Gray)
Rate : PG
Author : RapDivide


Note : ฟิคเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อสนองความต้องการของคนแต่ง(?) ตัวละครในฟิคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด เอาง่ายๆ คือฟิคเรื่องเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 








-------------------------------------------------------









กีซอกไม่รู้ว่าเขาทนกับเรื่องแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว




“วันนี้จะออกไปไหนอีกซองฮวา”



“ออกไปหาเพื่อนไงพี่”




เรื่องที่อีกฝ่ายออกจากห้องไปโดยไม่ให้เหตุผลที่มากไปกว่าประโยคดังกล่าว และมักจะกลับมาที่ห้องในสภาพที่ดูไม่ได้เลยแทบทุกครั้ง




วันนี้วันหยุดแล้ว อยากไปเที่ยวไหนไหม?”




“ผมมีนัดกับเพื่อนแล้วอ่ะ...ใกล้เวลาแล้ว ไปก่อนนะพี่”





เรื่องที่มักจะปฏิเสธคำถามของเขาแทบทุกครั้งหลังจากที่คบกันมาได้เกือบสามเดือน





และอีกหลายๆเรื่องที่ไม่อยากจะกล่าวถึงเท่าไหร่นัก..





เสียกคลิ๊กเมาส์ดังขึ้นเป็นระยะๆภายในห้องทำงานของกีซอก ช่วงนี้งานก็ไม่ยุ่งมากเท่าไหร่ เขาเลยคิดจะมาจัดการทำให้มันเสร็จไปเสียที อีกอย่างต่อให้กลับห้องไปตอนหน้าก็คงไม่ดีนัก เพราะยังไงซองฮวาก็ยังไม่กลับมาหรอก



ฮยองยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ผมก็นึกว่าฮยองไม่ได้มาวันนี้ซะอีก                



“เพิ่งจะเข้ามาตอนบ่าย ไม่แปลกหรอกที่นายจะไม่รู้”



ฮยอกอูหรือที่ใครๆเรียกกันว่าโลโค่เดินเข้ามานั่งบนโซฟาตัวยาวที่อยู่ทางขวามือพลางผ่อนลมหานใจออกมาราวกับได้พักผ่อน กีซอกหันไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปทำงานของตนต่อ



“แล้ว...เกรย์ฮยองไปไหนล่ะ ผมไม่เห็นเลยช่วงนี้”



“ออกไปหาเพื่อนแต่เช้าแล้วล่ะ... เออ นายพอจะรู้ไหมว่าเขาชอบไปที่ไหนบ้าง”



กีซอกกดเซฟงานก่อนจะปิดคอมและหันเก้าอี้ให้เปลี่ยนทิศหันหน้าไปทางฮยอกอู อีกฝ่ายให้ทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นก็ต้องรีบเก็นไป และคาดว่าอาจจะไม่หยิบมันขึ้นยาวเลยแน่ๆ



ไม่ตามแถวเมียงดงก็คงตามผับบาร์ล่ะมั่งฮยอง



อืม..



เกรย์ฮยองทำตัวแบบนี้ ฮยองไม่อึดอัดบ้างหรือไง



ไม่รู้สิ... ฮยองคงปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวมากไปมั้ง เขาเลยต้องออกไปข้างนอก..แต่พอฮยองจะชวนไปไหน เขาก็ปฏิเสธตลอด บางที…”




เขาน่าจะอึดอัดอยู่ฝ่ายเดียว



บางทีเขาก็คิดว่าเขาควรปล่อยอีกฝ่ายไป...



แต่เพราะว่ารักมาก จึงปล่อยไปได้ยาก




งั้นฮยองควรจะกลับบ้านไปหาเกรย์ฮยองนะ ผมคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะกลับถึงบ้านแล้ว



ใครก็ต่างบอกว่าฮยอกอูเป็นคนมองโลกในแง่ดี...เขาว่ามันก็น่าจะจริงแหละ เป็นรุ่นน้องที่ยิ้มได้ตลอด อารมณ์ดีตลอดเวลา




ดีจนน่าอิจฉา




อืม งั้นฮยองกลับก่อนนะ ฝากบอกแจบอมด้วยว่าฮยองกลับแล้ว



รับทราบครับผม



กีซอกหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าเงินใส่กระเป๋าเสื้อโค้ดก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทำงานพลางโบกมือลารุ่นน้องโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปมอง




            ถนนสองข้างทางเวลานี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่กำลังเปิดเพื่อให้คนได้เข้าไปจับจ่ายซื้อของ ตอนแรกเขาก็กะจะเดินตรงไปโดยพยายามจะไม่สนใจร้านค้าเหล่านั้น




            แต่สุดท้ายทั้งสองมือของเขาก็เต็มไปด้วยถุงกระดาษที่ใส่ของที่ซื้อจากร้านพวกนั้นแทบทุกอย่าง...ส่วนใหญ่มันก็เป็นของซองฮวาทั้งนั้น




          เขาจัดการย้ายของทุกอย่างไปไว้ที่มือข้างซ้ายทั้งหมดก่อนที่มือหนาจะล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ดจัดการส่งคาทกไปหาซองฮวาว่ากำลังจะกลับห้อง... เขายืนรอข้อความนั้นอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีการตอบกลับ เขาจึงตัดสินกดล็อคมันและเดินตรงต่อไปเพื่อกลับไปยังห้องตามจุดประสงค์ของตน



            มือหนายกคีย์การ์ดขึ้นทาบกับเครื่องสแกนเพื่อจะเข้าไปภายในตัวตึกและเก็บมันใส่กระเป๋าเช่นเดิม... แทนที่เขาจะได้เดินตรงกลับไปที่ห้องเลย ก็ต้องสะดุดกับจดหมายที่ล้นออกมาจากกล่องรับที่มีเลขห้องเขาบอกอยู่..





นี่เขาไว้ใจถูกคนหรือเปล่า ที่ให้ซองฮวาเป็นคนจัดการบิลพวกนี้





แต่จากบิลพวกนี้นี่มันเป็นใบเสร็จและส่วนใหญ่ก็มาตั้งแต่เดือนที่แล้ว... ดีนะที่สมัยนี้มันจ่ายผ่านโทรศัพท์ได้ ไม่งั้นป่านนี้เขาต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนซักแห่งแล้ว




          จริงๆเลยนะซองฮวา




            เขาจัดการยัดทุกอย่างลงถุงกระดาษใบหนึ่งก่อนจะเดินตรงไปกดลิฟต์ ไม่นานนักลิฟต์ก็เคลื่อนมาถึงชั้นที่เขาอยู่ เขารีบกดชั้นที่ต้องการจะไปทันทีที่เข้าไปภายในตัวลิฟต์








            ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างช้าๆ เมื่อชั้นที่เขาต้องการ สองขาก้าวออกมาจากตัวลิฟต์อย่างไม่เร่งรีบนัก ก่อนจะล้วงหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้ออีกครั้งพลางทาบมันลงตรงเครื่องที่ติดอยู่ข้างๆกับประตูห้อง




            แก๊ก...





          ทำไมข้างในมืดแบบนี้เนี่ย





            นั่นคือความคิดแวบแรกในหัวของกีซอก... เขาจัดการถอดรองเท้าไว้ก่อนจะเดินไปกดสวิตซ์ไฟ มันกะพริบสองสามทีก่อนจะติดตามหน้าที่ของมัน เขาวางของลงบนโซฟาก่อนจะหันหลังเดินกลับไปเก็บรองเท้าเข้าชั้นให้เรียบร้อย




            ทำไมมีรองเท้าสามคู่..?




            คำถามดังกล่าวผุดขึ้นในหัวเมื่อเขายกรองเท้าคู่หนึ่งขึ้นมามองว่าเป็นของใคร ซึ่งมันใช่สไตล์ที่เขาและซองฮวาจะใส่ ทำให้ความสนใจของเขามุ่งตรงไปยังห้องนอนที่ปิดเงียบสนิท..




            มันคงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาหรอกใช่ไหม?




        เขาวางรองเท้าคู่นั้นลงก่อนจะตัดสินใจเดินไปปิดไฟในห้องลง กีซอกถอดเสื้อโค้ดพลางแขวนมันไว้บนที่ของมันก่อนจะค่อยๆก้าวทีละก้าวอย่างช้าและเบาที่สุดไปที่ประตูห้องนอน



            เมื่อเขาแนบหูไปกับประตูห้องก็ได้ยินเสียงแปลกๆ และเขามั่นใจว่านั่นเป็นเสียงของซองฮวา... เขาตัดสินใจเปิดเข้าไป ก่อนจะเห็นภาพที่เขาเองไม่ว่าจะได้เห็น...




            ภาพที่ซองฮวากำลังจูบกับคนอื่น




            คนที่ไม่ใช่เขา...



           
            เขาคิดว่าถ้าเขาเข้ามาช้ากว่านี้ สองคนตรงหน้าคงจะทำอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ซองฮวาเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆกีซอกก็เปิดประตูเข้ามาโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขารีบผลักชายที่เขาพามาด้วยออกห่างจากเขาทันที



            พ...พี่กีซอก



            “มันเป็นใคร?”



            กีซอกเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบและเย็นชาจนดูน่ากลัว... ซองฮวาเองก็ไม่สามารถคิดหาคำตอบอื่นออกมาตอบอีกฝ่ายได้ในเวลานี้ หลักฐานมันชัดเจนเสียขนาดนี้แล้ว



            เขาเป็น...เพื่อนผม



            เพื่อนเหรอ?... แล้วเพื่อนจำเป็นต้องรักกันถึงขนาดนี้ไหมซองฮวา



            “….”



            กีซอกมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะหันไปมองชายแปลกหน้าที่คนรักของตนเรียกว่าเพื่อน... ใบหน้าของเขานิ่งเฉยจนคนมองมายังเริ่มรู้สึกเกรงกลัว... ซองฮวาพยายามตั้งสติก่อนจะลุกเดินพลางจะเข้ามากอดเขา แต่กีซอกกลับถอยห่าง...


            กีซอกจ้องหน้าเขาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยประโยคที่ซองฮวาไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน



            ถ้านายรักเพื่อนคนนี้มากก็เลิกกับฉันและไปหาเขาเถอะ



            “ไม่เอาสิพี่ ฟังผมก่อน




            “ฉันไม่ต้องการฟังคำแก้ตัวจากนายซองฮวา ภาพที่ฉันเห็นมันยากเกินกว่าที่ฉันจะไม่เชื่อได้




            “…”




            “และฉันรู้ว่าฉันไม่มีเวลาให้ นายเลยเลือกทำแบบนี้




หวังว่านายจะมีความสุขมากกว่านี้ มากกว่าตอนที่อยู่กับฉัน








TBC









___________________________________________________________

มันยังไม่จบค่ะ เดี๋ยวมาแต่งต่อ 
มีฟิคอีกหลายๆเรื่องที่ยังไม่ได้เคลียร์
เป็นครั้งแรกที่แต่งคู่นี้เลยค่ะ ปกติเราอ่านแต่ของคนอื่นเขา คราวนี้เลยมาแต่งเองเลย 
ดีไม่ดีก็อย่าว่ากันนะคะ TT
//ซัมเกรย์เป็นคู่ที่ลูกเรือไม่ต้องทำอะไรเลยจริงๆค่ะ5555


เจอกันอีกทีตอนที่เราอัพนะคะ555 บายย

29 ธันวาคม 2558

Just Friends,Right? - Chapter 15



"อยากก็บอก...เดี๋ยวจัดให้"



นัมจุนพูดก่อนจะผลักอีกคนให้นอนราบกับโซฟาและขึ้นคร่อมทันที ใบหน้าคมก้มลงจูบปากคนใต้ร่าง ตักตวงความหวานในโพรงปาก ซอกจินยกมือขึ้นโอบคอร่างสูง พลางดึงให้เข้ามาแนบชิดมากขึ้น นัมจุนผละจูบออก ก่อนจะก้มลงสูดดมซอกคอขาว




"อื้อ..."




ซอกจินเริ่มส่งเสียงร้อง เมื่อร่างสูงใช้ปากขบเม้มทำรอยแดงไปทั่วลำคอ มือที่ว่างก็รีบถอดเสื้อและโยนมันออกไปทันที วินาทีนี้เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่เกะกะที่สุดสำหรับพวกเขา นัมจุนก้มลงครอบครองลูกกวาดสีสวยที่ล่อตาล่อใจเขาอยู่นาน ซอกจินเอามือจิกลงบนกลุ่มผมเขาเพื่อระบายความเสียว 




นัมจุนเริ่มจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองจนตอนนี้เขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในปกปิดส่วนนั้นอยู่ นัมจุนก้มลงจูบคนใต้ร่างอีกครั้งก่อนจะค่อยใช้มือถอดกางเกงซอกจินออก




แก่นกายสีหวานชูชันขึ้นตามอารมณ์ มือหนาจับรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ จนส่วนปลายเริ่มมีน้ำสีใสปริ่มออกมา ในขณะที่ซอกจินใกล้จะเสร็จ เหมือนอีกคนรู้จึงหยุดทันที




"ยะ...หยุด..ทำไม"




"เรื่องอะไรจะให้ฮยองเสร็จก่อนล่ะ"




"อ๊ะ.."




ร่างเพรียวกระตุกเล็กน้อยเมื่อนัมจุนสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านล่าง ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในสมอง เมื่อร่างสูงเห็นว่าอีกคนเริ่มปรับสภาพได้แล้วจึงขยับนิ้วอย่างช้าๆ  




"อ๊ะ ไม่เอา..นิ้ว..แล้ว" 




นัมจุนยกยิ้มมุมปาก ในเมื่ออีกคนต้องการแบบนั้นเขาก็จัดให้ ร่างสูงดึงนิ้วออกทันทีก่อนจะถอดกางเกงชั้นในตัวเองออก นัมจุนจับแก่นกายแทรกเข้าไปในช่องทางทีเดียวจนมิด ซอกจินร้องออกด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกแยกร่าง น้ำสีใสไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น จนร่างสูงก้มลงมาจูบปากอย่างแผ่วเบา




"สัญญาว่าจะทำเบาๆ"




คำพูดของนัมจุนทำให้ซอกจินรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะร้องครางเมื่อนัมจุนเริ่มขยับช่วงล่าง ช่องทางรักตอดรัดแน่นจนนัมจุนแทบคลั่ง ซอกจินเอามือโอบคอร่างสูงก่อนจะเลื่อนไปจิกแผ่นหลังจนเกิดรอยแดง 




"อื้อ เร็วกว่านี้...หน่อย อ๊าา"   




นัมจุนทำตามคำขอของเขา ร่างสูงค่อยๆซอยสะโพกถี่ขึ้น จนตัวซอกจินเริ่มขยับตามแรง เสียงครางหวานดังก้องไปทั่วห้อง ซอกจินไม่สนใจแล้วว่าใครจะมาได้ยิน เขาต้องการจะระบายความเสียวซ่านที่ได้รับตอนนี้มากกว่า




" อื้ม"




 นัมจุนครางเสียงต่ำออกมาในลำคอ เขาใกล้จะเสร็จอยู่ร่ำไร มือหนาจับแก่นกายร่างเพรียวรูดขึ้นลง จนซักพักน้ำสีขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนเต็มมือ นัมจุนมองหน้าอีกคนที่กำลังเบือนหน้าหลบเขา ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะใช้ลิ้นเลียกินคราบน้ำที่ติดตามมือจนเกลี้ยง




"กินเข้าไปทำไ..."




 "อร่อยดีแฮะ"




นัมจุนพูดออกมา ซอกจินแทบจะเอาหน้ามุดหนี นัมจุนชอบให้เขาเขินได้ตลอดเวลา แต่ไม่ทันได้คิดอะไรต่อนัมจุนก็กระแทกแก่นเข้ามาแรงขึ้น เขาปลดปล่อยน้ำรักสีขุ่นเข้าช่องทางนั้น มันเยอะจนไหลล้นออกมาเลอะขาขาวเต็มไปหมด ก่อนที่นัมจุนจะถอดแก่นออกมา ตอนนี้ทั้งเขาและนัมจุนต่างเหนื่อยหอบไม่แพ้ ซอกจินค่อยๆดันตัวขึ้นนั่งพลางซบหน้าลงบนไหล่นัมจุน 




"อีกรอบนะ.."




"ถ้านายจะทำอีก.."




"??"




"เอาถึงเช้าเลยนะ"




นัมจุนยกยิ้มร้าย ซอกจินคนเดิมเป็นยังไง ซอกจินที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ยังเป็นซอกจินคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ร่างเพรียวเป็นฝ่ายผลักนัมจุนให้นอนราบลงไป ก่อนจะที่บทรักจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...








#ฉากNC แต่งเองครั้งแรกในชีวิต



กลับสู่หน้าฟิคหลัก  http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1401718&chapter=16